วิธีติดต่อทางสื่อ

SISU News Center, Office of Communications and Public Affairs

Tel : +86 (21) 3537 2378

Email : news@shisu.edu.cn

Address :550 Dalian Road (W), Shanghai 200083, China

ข้อความที่เกี่ยวข้อง

เยี่ยมชมซงเจียง 001 เกสต์เฮาส์ “นาน้ำแปดสิบแปดเอเคอร์” ค้นหาเรื่องราวการเริ่มต้นธุรกิจในชนบทที่อบอวลด้วยกลิ่นหอมดอกข้าว


03 September 2020 | By thadmin | SISU

     ในช่วงกลางวันของวันที่ 30 กรกฏาคม ค.ศ. 2020 ทีมปฏิบัติการทางสังคมคณะ

ภาษาตะวันออกได้เข้าเยี่ยมชม“นาน้ำแปดสิบแปดเอเคอร์” ซึ่งเป็นศูนย์

ประสบการณ์วัฒนธรรมข้าวที่อยู่ใน เมืองเย่เซี่ย เขตซงเจียง

 

ทางเดินในการสืบเสาะหา “วัฒนธรรมข้าวบวก” ตราสินค้าและ

วัฒนธรรมของข้าวเม็ดเล็ก ๆ

 

     ประวัติความเป็นมาของการปลูกข้าวในเขตซงเจียงเริ่มจากห้าพันกว่าปีก่อน ใน

สมัยนั้น บรรพบุรุษของวัฒนธรรมกว่างฟู่หลิงเริ่มเพาะปลูกข้าว  จนกระทั่งวันนี้ เมือง

เย่เซี่ยเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตซงเจียง กับที่นาหกหมื่นเอเคอร์ และเกษตรกรสอง

หมื่นห้าพันคน ได้ยืนตระหง่าน ณ ทางแยกแห่งการเปลี่ยนรูปแบบเกษตรกรรม

 

     ที่เรียกกันว่า “นาน้ำแปดสิบแปดเอเคอร์” นั้น แยกมาจากโครงสร้างของตัว

อักษรจีน “米 ” ซึ่งหมายถึง “ข้าว”  และด้วยเหตุบังเอิญ จูเยี่ยน ซึ่งเป็นคน

ท้องถิ่นของเมืองเย่เซี่ย มีความเกี่ยวข้องและผูกพันกับข้าวซงเจียง  หลายปีผ่านไป

จูเยี่ยนลาออกจากงานที่มีเกียรติในตัวเมือง และผันตัวมาเป็น“นางงามข้าว”

ท่ามกลางท้องนา  เธอได้สร้าง “นาน้ำแปดสิบแปดเอเคอร์” ซึ่งเป็นศูนย์

ประสบการณ์วัฒนธรรมที่มีวัฒธรรมอาหารเกี่ยวกับข้าวเป็นแกนหลัก ณ เมืองเย่เซี่ย

เขตซงเจียง ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเธอ

 

     เนื่องด้วยการขุดค้นคุณค่าข้าวซงเจียงทางด้านวัฒนธรรม “นาน้ำแปดสิบแปด

เอเคอร์” ทำให้มีการส่งเสริมข้าวสารในซงเจียงให้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น และได้เผย

แพร่วัฒนธรรมอาหารและข้าว ในเวลาเดียว ก็นับว่าเป็นกรณีที่ได้ประสบความสำเร็จ

สำหรับการสร้างตราสินค้าข้าวสารซงเจียงในยุคอินเตอร์เน็ตอีกด้วย  ร้านอาหาร ทาง

เดินป่าไม้ บรรดาสวนผลไม้ และอาคารประสบการณ์ข้าวสาร ที่กำลังจะสร้างเสร็จใน

เร็วๆ นี้ เหล่านี้ล้วนมีวัฒนธรรมข้าวเป็นแกนหลัก จากเครื่องประดับรวงข้าวบนกำแพง

สีขาวในร่ม สู่นาข้าวเขียวชอุ่มกลางแจ้งอันไกลโพ้น ต่างทำให้ทุกคนที่มาถึงที่นี่ได้

ซึมซับบรรยากาศวัฒนธรรมข้าวทั้งสิ้น

 

   “นาน้ำแปดสิบแปดเอเคอร์”ไม่เพียงแต่พัฒนาตนเองเท่านั้น หากยังได้ก่อตั้ง

สหกรณ์ ซึ่งเกิดจากร่วมมือของชาวบ้านเย่เซี่ย มีการเสนอตราสินค้าข้าวสาร “นาน้ำ

แปดสิบแปดเอเคอร์” เพื่อส่งข้าวสารที่มีคุณภาพดีไปสู่เซี่ยงไฮ้และทั่วประเทศ  อีก

ทั้งยังได้พัฒธนาธุรกิจต่างๆ เช่น เกสต์เฮาส์ชนบท การบริการด้านอาหาร การให้

ความรู้ด้านการเกษตร ตลอดจนประสบการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับการเกษตร  นับว่า“นา

น้ำแปดสิบแปดเอเคอร์” เป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมในการปฏิบัติการตามกลยุทธ์การบู

รณาการ 3 อุตสาหกรรม (อุตสาหกรรมปฐมภูมิ อุตสาหกรรมทุติยภูมิ และ

อุตสาหกรรมตติยภูมิ )

 

     ในขณะเดียวกัน “นาน้ำแปดสิบแปดเอเคอร์” ได้สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์

เพื่อนำเอาทรัพยากรมารวมรวมไว้ให้มากขึ้น และกระตุ้นการค้ารวมของผลิตภัณฑ์

ทางการเกษตรด้วยเทคโนโลยีต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต และอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง

(Internet of Things (IoT))  ในอีกไม่นาน อาคารประสบการณ์ข้าวสารก็จะสร้าง

เสร็จ ซึ่งจะสามารถแบ่งปันความสุขจากความอุดมสมบูรณ์สู่ผู้คนได้อีกเป็นจำนวน

มาก

 

การสืบทอดขนมเค้กเย่เซี่ยทางประวัติศาสตร์ แรงบันดาลใจใหม่ของ

มรดกทางภูมิปัญญาของวัฒนธรรมซงเจียง

 

   “ขนมเย่เซี่ยเกี๊ยวจังเจ๋อ ลมหวนชวนคะนึงหา” ขนมเค้กเย่เซี่ยที่กล่าวถึงในที่นี้

กำเนิดขึ้นใน ปี ค.ศ. 1573 ในรัชสมัยจักรพรรดิว่านลี่แห่งราชวงศ์หมิง เนื่องจาก

ทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของเมืองเย่เซี่ยเปรียบเหมือนอู่ข้าวอู่น้ำ มีตำแหน่ง

ติดกับแม่น้ำหวงผู่ การคมนาคมทางน้ำจึงมีการพัฒนา ตลอดจนธุรกิจการค้าก็พัฒนา

ไปควบคู่กัน ดังนั้น ขนมเย่เซี่ย ก็เป็นที่ขึ้นชื่อไปด้วยเช่นกัน  ขนมเย่เซี่ย เป็นหนึ่งใน

สามขนมผู่หนันอันทรงคุณค่า ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้อง

ไม่ได้แห่งเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ ส่วนผู้สร้าง “น้ำนาแปดสิบแปดเอเคอร์” ก็เป็น

หนึ่งในกลุ่มผู้สืบสานวิธีการทำขนมเย่เซี่ย

 

     ภายในร้านอาหาร“น้ำนาแปดสิบแปดเอเคอร์” เราได้ลิ้มรสชาติของขนมเย่เซี่ย

ที่สืบทอดต่อกันมาช้านานนี้เป็นครั้งแรก ขนมที่นุ่มๆ เล็กๆ หายไปจากตะเกียบในชั่ว

พริบตา แต่รสชาติอันอ่อนหวานนั้นยังตราตรึงในความคิดของเราอยู่เสมอ  ตัวอักษณ

หรือหรือบทกวีไม่นานก็อาจจะลืมไป แต่รสชาตินี้จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป  ขนม

เย่เซี่ยปรากฏที่โต๊ะอาหาร รสชาติของมันเข้าสู่ความทรงจำของแขกผู้มาเยือน  แต่สิ่ง

นี้ยังไม่ใช่เป้าหมายที่น่าพึงพอใจ ผู้ดำเนินการจัดการได้จัดให้แขกผู้มาเยือนได้

สัมผัสวิธีการทำขนมเย่เซี่ย โดยพวกเขาสามารถทำขนมเย่เซี่ยด้วยตนเอง และ

ถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ต่อไปได้   “นาน้ำแปดสิบแปดเอเคอร์” ยังได้แนะนำขนมเย่

เซี่ยให้แก่พิพิธภัณฑ์ซงเจียงและโรงแรมเสอซานซื่อเม่าระหว่างทวีป  จนในที่สุด

โรงแรมแห่งนี้ก็ขายขนมเย่เซี่ยอย่างเป็นทางการ เกิดการผสมผสานระหว่างความเป็น

ประวัติศาสตร์และสืบทอด จนกลายเป็นลู่ทางใหม่ในการรักษาวัฒนธรรมตั้งเดิม

 

     ในสมัยใหม่ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ เช่น ขนมเย่เซี่ย จะพบเจอทั้ง

โอกาสและวิกฤต ประสบการณ์ที่สำเร็จของตราสินค้า“นาน้ำแปดสิบแปดที่นา”อาจ

เป็นกำลังและแรงบันดาลใจใหม่ๆ สำหรับมรดกที่จับต้องไม่ได้ของซงเจียงในยุคสมัย

ใหม่  ชีวิตเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดของวัฒนธรรม และสำหรับขนมเย่เซี่ยแล้ว การถ่ายทอด

ส่งต่อระหว่างผู้คนสู่ผู้คน ก็อาจจะเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดเช่น

 

แสงแห่งความหวังท่ามกลางเกสต์เฮาส์ชนบท เยาวชนประกอบการและ

ช่วยฟื้นฟูชนบท

 

   “นาน้ำแปดสิบแปดเอเคอร์” ยังมีอีกชื่อหนึ่ง คือ “ซงเจียง  001 เกสต์เฮาส์”

 ในปี ค.ศ. 2019 เขตซงเจียงได้ออกนโยบายการสนับสนุนการพัฒนาเกสต์เฮาส์

ชนบทในเขตซงเจียง  และ “นาน้ำแปดสิบแปดเอเคอร์” ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเกสต์

เฮาส์แห่งแรกในเขตซงเจียง

 

  “นาน้ำแปดสิบแปดเอเคอร์” ไม่เพียงแต่เป็นเกสต์เฮาส์หลังหนึ่ง หากยังตระหนัก

ถึงสิ่งแวดล้อมธรรมชาติของเมืองเย่เซี่ย พยายามขุดค้นประวัติศาสตร์และมรดกทาง

วัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ สร้างอัตลักษณ์ของตารสินค้า“ข้าวซงเจียง” ถือว่าเป็น

ตัวอย่างที่ดีในด้านการฟื้นฟูชนบทของซงเจียง

 

    จากการใช้ประโยชน์ของวัฒนธรรมชนบทเป็นครั้งที่สอง ตราสินค้า “นาน้ำแปด

สิบแปดเอเคอร์” ได้ขุดพบคุณค่าทางด้านเศรษฐกิจวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ของ

ที่ดินอันอุดมสมบูรณ์ในเมืองเย่เซี่ย  ในการทำความเข้าใจกับเขตซงเจียง นักท่อง

เที่ยวที่มุ่งไปสัมผัสวัฒนธรรมข้าว ก็ได้จดจำความสวยงามและความอบอุ่นของผู้คน

ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวในเมืองที่มุ่งหน้ามาพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือ

จะเป็นทีมจากบริษัทที่มุ่งหน้ามาเพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ ตลอดจนนักท่อง

เที่ยวขาจรที่มาจากทั่วทุกสารทิศ ต่างก็สามารถมาเยือนกลิ่นหอมของรวงข้าวและ

ความฝันในชนบทที่พวกเขาต้องการ การพัฒนาการเกษตรในชนบทในยุคใหม่

สำหรับปัญหานี้ที่เกี่ยวข้องกับทั้งเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เราสามารถค้นหา

คำตอบได้ที่ “นาน้ำแปดสิบแปดเอเคอร์”

 

    จากรวงข้าวสู่ข้าวสาร จากตราสินค้าสู่วัฒนธรรม ผู้ประกอบการของ“นาน้ำแปด

สิบแปดเอเคอร์”ยินดีอย่างยิ่งในการกลับสู่บ้านเกิด ซึ่งเปรียบเสมือนการให้เลือดอัน

อบอุ่นแก่การพัฒนาของชนบท กระตุ้นกระบวนการการพัฒนาของเมืองเย่เซี่ยทีละ

น้อยๆ  หลายปีมานี้ เธอได้อุทิศวัยหนุ่มสาวอันมีค่า เพื่อช่วยพัฒนาบ้านเกิดและ

ชนบท พร้อมถึงพยายามกระตุ้นการพัฒนาชนบทในสมัยใหม่ด้วยความรู้และ

ทรัพย์สินต่างๆ ที่เธอสะสมมา ตลอดจนใช้การลงมือทำเหล่านี้เพื่อเฟ้นหาอนาคตของ

การพัฒนาชนบทจีนในสมัยใหม่อีกด้วย

 

    การดำเนินตามกลยุทธ์ฟื้นฟูชนบท ความต้องการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการแก้

ปัญหาความขัดแย้งหลักของสังคมจีนในสมัยใหม่ และในกระบวนการในการบรรลุซึ่ง

เป้าหมาย “หนึ่งศตวรรษสองประการ” กับการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของ

ประชาชาติจีน  ในอนาคตย่อมต้องมีเยาวชนมากขึ้นที่มีความรู้และความ

ทะเยอทะยานจะกลับไปบ้านเกิดของพวกเขาเหมือนกับจูเย่ง และดำเนินการสร้าง

ชนบทใหม่อย่างแข็งขัน บนผืนแผ่นดินชนบทจีนที่กว้างขวาง พวกเราได้เห็นความมี

ชีวิตของตราสินค้า“นาน้ำแปดสิบแปดเอเคอร์” ได้เห็นกำลังของเยาวชนที่พุ่ง

พลาน และได้เห็นว่าแสงรุ่งอรุณแห่งการฟื้นฟูชนบทส่องประกายบนทุ่งนาแห่งความ

หวัง

 

    ในความเป็นจริง “นาน้ำแปดสิบแปดเอเคอร์” ก็ตระหนักถึงความจำเป็นที่เร่ง

ด่วนของการสร้าง“วัฒนธรรมข้าว”  ขณะที่พิพิธภัณฑ์“วัฒนธรรมข้าว”แห่งใหม่

กำลังก่อสร้าง พวกเขายังได้กระจายกำลังในการแจกจ่ายใบปลิว “นาน้ำแปดสิบ

แปดเอเคอร์” และจำหน่ายผลิตผลต่างๆ ที่แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมพื้นเมือง

ในซงเจียงเพื่อดึงดูดผู้คนให้มากขึ้น  สุดท้ายนี้ หวังว่า“นาน้ำแปดสิบแปดเอเคอร์”

จะเป็นการสรรสร้างที่ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นความพยายามในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่

ของเกษตรกรในเขตผู่หนันของซงเจียง และนำมาซึ่งการพัฒนาในภูมิภาคอย่าง

แท้จริง

แบ่งปันข้อความ:

วิธีติดต่อทางสื่อ

SISU News Center, Office of Communications and Public Affairs

Tel : +86 (21) 3537 2378

Email : news@shisu.edu.cn

Address :550 Dalian Road (W), Shanghai 200083, China

ข้อความที่เกี่ยวข้อง